ทำความสะอาดทอง 8 วิธี สวัสดีคับ หลายๆ คนมีเครื่องประดับทอง เก็บไว้มากมาย หรือสวมใส่อยู่ทุกวัน อาจทำให้เครื่องประดับทอง ดูเก่า ดูไม่ใหม่เหมือน วันที่ซื้อมาในช่วงแรกๆ วันนี้แอดมินจะมาบอก 8 วิธี การทำความสะอาดทอง ยังไงให้ดูใหม่ตอดเวลา ถ้าไม่ได้ทำตามที่แอดมินบอก จะได้ทองสีสวยเรืองรอง กลับคืนมาอย่างแน่นอนครับ พร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ
1. ทำความสะอาด ทอง ด้วยน้ำต้มเดือด
ทำความสะอาดทอง วิธีแรก หากเครื่องประดับทองของคุณ ดันไปเปื้อน บางครั้งบนตัวสร้อยทอง ของคุณ ก็มีคราบไขมันติดอยู่ อาจมาจากเหงื่อของผู้สวมใส่ทำให้ ทองดูหม่นหมอง ไม่เงา ขี้ผึ้งหรือน้ำมันอะไรสักอย่าง ติดอยู่ ให้คุณทำความสะอาด โดยนำเครื่องประดับไปจุ่มใน น้ำต้มเดือดเพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกไป เมื่อหลุดออกไปแล้วค่อยใช้น้ำผสมสบู่หรือน้ำผสมแอมโมเนียทำความสะอาดอีกรอบ เท่านี้ก็กลับมาสวยเหมือนเดิมแล้วครับ
2. ใช้ยาสีฟัน / แปรงสีฟัน
ยาสีฟันเองก็สามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกที่เกาะบนตัวทองได้ดีเลยนะครับ ช่วยให้เงางามมากยิ่งขึ้น โดยวิธีทำความสะอาด ให้บีบยาสีฟันปริมาณพอเหมาะให้พอดีกับแปรงสีฟัน แล้วนำไปขัดลงบนตัวทอง ขัดเบา ๆ จากนั้นแล้วให้ล้างน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ทองก็จะกลับมาสะอาดเปล่งประกายเหมือนเดิมแล้วครับ
ถ้าคุณอยากจะขัดเครื่องประดับทองด้วยแปรงสีฟัน แนะนำให้เลือกแปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่มมาใช้จะดีกว่านะครับ ว่าแปรงนี้ขนอ่อนนุ่มหรือไม่ ถ้าคุณมีแปรงสำหรับแปรงคิ้วที่ไม่ได้ใช้ ก็สามารถนำมาขัดเครื่องประดับทองได้เหมือนกัน โดยเวลาขัดก็ให้ขัดอย่างเบามือเป็นลักษณะวงกลม ขัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าทองจะกลับมาสะอาดสดใสอีกครั้ง
3. ใช้น้ำมะนาว
วิธีที่สาม ให้บีบน้ำมะนาวใส่ถ้วยเอาไว้พอให้ท่วมเครื่องประดับทองของ ที่เตรียมไว้ จากนั้นให้นำเอาเครื่องทองแช่ลงไปในถ้วยน้ำมะนาวประมาณ 1 คืน ครับ เช้าวันรุ่งขึ้นจึงนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้งพร้อมทั้งใช้แป้งเด็กโรยลงบนเครื่องทอง รับรองว่าจะต้องสวยสะอาดขึ้นเงามาก ทองจะกลับมาสวย เงาวิวั้บอย่างแน่นอนครับ
4. ใช้น้ำมะขามเปียก ทำความสะอาด ทอง
วิธีที่สี่ คือ ใช้น้ำมะขามเปียก ทำความสะอาดทอง แบบนี้ก็ทำได้ ไม่ยุ่งยากเลย นำมะขามเปียกมาผสมน้ำอุ่น คั้นจนได้น้ำมะขามเปียกออกมา ให้เหลือแค่น้ำมะขามเปียกเท่านั้น จากนั้นจึงนำเอา เครื่องประดับทอง มาแช่ลงไปในน้ำมะขามเปียกประมาณ 5 นาที ครับ จากนั้นใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดอีกรอบนึง แล้วใช้ผ้าขนหนูมาขัดอีกรอบ เพียงเท่านี้ก็จะได้เครื่องประดับทองคำก็จะกลับมาสวย ดูใหม่ อีกครั้งครับ
5. ใช้เบกกิ้งโซดา
วิธีที่ห้า นำผงเบกกิ้งโซดาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากันกับน้ำอุ่นประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันจนเหนียวข้นดี หากยังไม่ข้นพอสามารถเติมน้ำอุ่นลงไปได้อีก จากนั้นจึงนำมาถูลงบนเครื่องประดับ ทอง ที่เตรียมำไว้ และ ให้นำเอาแปรงสีฟันขนนุ่มมาช่วยขัดทองต่อ ปล่อยทิ้งไว้แล้วรออีกประมาณ 2 นาที หลังจากนั้นให้นำน้ำสะอาด มาล้างเบกกิ้งโซดาออกไปให้หมด จนสะอาด เพียงเท่านี้เครื่องทองของคุณก็จะกลับมาสวยเหมือนใหม่แล้วครับ
6. ใช้น้ำยาล้างจาน
หลายๆคนคงคิดว่าเครื่องประดับทองที่เราสวมใส่ต้องเจอทั้งเหงื่อ ทั้งคราบครีมและคราบไคล ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นไขมันอันสร้างความหมองคล้ำแก่เครื่องประดับทอง วิธีที่จะกำจัดคราบมันออกไปได้ดีที่สุด คือวิธีใช้น้ำยาล้างจานนี่แหละครับ เหมาะสมสุด ๆ ด้วยการผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำเปล่า นำเอาฟองน้ำอย่างนุ่มมาช่วยในการขัดทองเพื่อไม่ให้เครื่องประดับเป็นรอย แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนนั้นเช็ดให้แห้ง แค่นี้ก็ได้ทองสีทองอร่ามก็กลับคืนมาแล้วครับ
7. น้ำยาล้างทองโดยเฉพาะ
หลายๆคน อาจจะไม่ทราบว่า ในปัจจุบันมีน้ำยาเป็นขวด และ ผ้าสำหรับเช็คทอง แต่ต้องเลือกซื้ออย่างละเอียดนะครับ เพราะบางยี่ห้ออาจไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เเครื่องประดับทองของคุณเป็นรอยตำหนิได้ครับ
8. ใช้แอมโมเนีย
วิธีสุดท้ายนี้ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชื่อของแอมโมเนียสำหรับใช้สูดดมขณะเป็นลม คงยังไม่รู้ว่ามันเอามาใช้ทำความสะอาดทองได้ นำแอมโมเนีย 1 ส่วน ผสมกับน้ำ 6 ส่วน จากนั้นแช่เครื่องประดับในน้ำที่ผสมไว้สัก 1 นาที ครับ แล้วค่อยนำขึ้นมารอเป่าให้แห้ง ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้บ่อยนะครับ เพราะมันจะทำให้ทองหมองคล้ำได้ครับ
เครื่องประดับที่ทำจากทอง ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ หรือ แหวน เมื่อใช้ไปนานๆแล้วอาจจะหมองไม่เงางาม เหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆเพราะโดนเหงื่อของเราซึ่งมีกรด เครื่องประดับเหล่านี้จะแพ้ความเค็มในเหงื่อของเรา จึงควรทำความสะอาดบ่อยๆ ให้เครื่องประดับกลับมาเงางามอีกครั้ง
วิธีทำความสะอาดทองไม่ให้สึกหรอ
1. ใช้น้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจาน นำทองไปแช่ ขัดด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มๆ และล้างด้วยน้ำสะอาด
2. ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มชุบยาสีฟัน แปรงทั่วๆ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เสร็จแล้วใช้ผ้านิ่มๆ ขัดเงาอีกครั้ง
3. แช่น้ำมะนาวไว้ประมาณ 1 วัน อาจจะเป็นช่วงกลางคืนตอนเราหลับก็ได้ หลังจากนั้น ถูเบาๆ ให้คราบสกปรกออกไป เช็ดให้แห้ง และหากมีแป้งเด็ก ก็สามารถนำมาทาบางๆ แล้วใช้ผ้าขัดอีก เพื่อความเงางาม
4. ใช้น้ำมะขามเปียก ขัด และล้างน้ำออกให้สะอาด เช็ดให้แห้ง
5. เครื่องประดับที่มีลวดลายละเอียด ควรแช่ในน้ำเดือด ผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตหนึ่งหยิบมือ แช่ทีละชิ้น ประมาณ 30 วินาที จากนั้นซับให้แห้งด้วยผ้านิ่ม แต่ในกรณีที่เครื่องประดับมีพลอยตกแต่งอยู่ ไม่ควรใช้วิธีนี้ เพราะอาจทำให้พลอยร้าวได้
ข้อควรระวัง
1. ให้ถอดเครื่องประดับทองก่อนว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ เนื่องจากคลอรีนในน้ำ อาจทำลายผิวของทอง หรือทำให้หนามเตยที่ไว้เกี่ยวคลายออกได้
2. หากจะแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ออนเซน หรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูง ควรถอดเครื่องประดับออก
3. โลชั่นหรือสเปรย์ต่าง ๆ ก็มีส่วนทำให้ความแวววาวของทองคำลดลงเช่นกัน เพราะทำให้เกิดชั้นไขมันเคลือบผิวทองไว้ ดังนั้นเวลาใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ ระวังอย่าให้โดนเครื่องประดับที่ทำจากทอง
ข้อเสนอแนะ
การเก็บรักษาทอง ไม่ควรเก็บรวมกัน เพราะว่าทองอาจจะขูดขีดกันเป็นรอยได้ ควรแยกเก็บ โดยอาจจะใช้กระดาษทิชชู หรือสำลีม้วนเก็บไว้ก็ได้
Follow Us
เกล็ดความรู้ ทอง
ทำไม ราคา ทองไทย และ ทองโลก ไม่เท่ากัน
ราคาหน้าร้านทอง กับ ราคาทองในตลาดโลก เป็นราคาเดียวกันหรือเปล่า? ถ้ามองแบบผิวเผินมันก็ควรจะเป็นราคาเดียวกัน เพราะทองก็เป็นแร่ธาตุเหมือนกัน อยู่ที่ไหนก็ควรจะราคาเดียวกัน แต่จริงๆแล้ว ราคาหน้าร้านทองกับราคาในตลาดโลก ไม่เท่ากัน! โดยราคาทองของไทยจะ “แพงกว่า” อยู่นิดหน่อย
ความแตกต่างราคาทองไทยกับราคาทองตลาดโลก
กลับมาเข้าเรื่องของราคาทอง ผมขอแบ่งเป็นสองกลุ่มเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น กลุ่มแรกคือ ราคาทองหน้าร้าน ซึ่งสำหรับคนที่ซื้อทองแบบที่เป็นรูปเป็นร่างจับต้องได้ น่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ผมขอเรียกว่าเป็น “ราคาทองไทย” ละกัน ส่วนอีกกลุ่มคือ ราคาทองในกราฟต่างประเทศ คนที่ลงทุนในกองทุนทองหรือเทรดตลาดฟิวเจอร์ จะคุ้นเคยกับราคานี้ ซึ่งในที่นี้ผมขอเรียก “ราคาทองโลก”
ทั้งสองราคาเป็นราคาทองเหมือนกัน แต่มีที่มาแตกต่างกัน จึงทำให้ราคาแตกต่างกันไปด้วย มาดูกันว่าแต่ละราคาคิดมาจากอะไร
ราคาทองโลก
ราคาทองที่อ้างอิงเป็นสากลตามข่าวเศรษฐกิจตามข่าวการลงทุนต่างๆ จะมาจากราคาทองในตลาด Gold Spot ซึ่งมีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์-ศุกร์ ราคาที่เห็นในกราฟจะมีหน่วยเป็น ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และมาตรฐานของทองที่ซื้อขายกันในตลาดนี้ต้องมีความบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่า 99.5%2
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา Gold Spot มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ปัจจัยที่เห็นได้ชัดๆก็คือ ทองมักจะถูกใช้เป็นที่หลบภัยทางการเงิน ในช่วงที่เกิดวิกฤติหรือมีเกณฑ์ที่จะเกิดความไม่สงบต่างๆ ราคาทองมักจะขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่เห็นว่าเงินหรือสินทรัพย์ที่ถืออยู่อาจจะผันผวน เลยเปลี่ยนไปเก็บไว้ในรูปของทองแทน
อย่างไรก็ตามราคานี้เป็นราคาที่ซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายในการจัดการส่งมอบใดๆทั้งสิ้น
ราคาทองไทย
ส่วนราคาทองของไทยที่โชว์อยู่ที่หน้าร้านขายทอง หลักๆแล้วจะเป็นการรวม “3 ปัจจัย” เข้าด้วยกัน คือ ราคา Gold Spot, อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน และ ค่า Premium (ค่าดำเนินการในการนำเข้าและส่งออก) โดยราคาจะแสดงเป็นหน่วย บาท/ทองคำ 1 บาท อ้างอิงตามราคาจากสมาคมค้าทองคำ ซึ่งเป็นราคาที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ทองที่นิยมซื้อขายในไทยจะอยู่ที่ความบริสุทธิ์ 96.5% ราคาทองคำจากสมาคมค้าทองคำจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ทองคำแท่ง และทองรูปพรรณ ปกติทองรูปพรรณจะขายแพงกว่า เพราะมีการบวกเพิ่มค่ากำเหน็จ (ค่าใช้จ่ายในการขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับ) และเวลารับซื้อร้านจะรับซื้อทองรูปพรรณที่ราคาต่ำกว่าเพราะซื้อขายต่อลำบาก ถ้าเกิดเราไปซื้อทองที่ร้านแล้วพบว่าไม่ได้ราคาตามราคาของสมาคมค้าทองก็ไม่ต้องตกใจ เพราะปกติร้านไม่ได้ผลิตทองคำแท่งเอง จึงต้องบวกกำไรจากค่าดำเนินการด้วย
ขอบคุณที่มา. คลิก
Shopping Online