ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศราคาทองคำจาก สมาคมค้าทองคำ แห่งประเทศไทย เป็นราคากลาง แต่ในการซื้อขายทองคำจริงๆนั้น อาจจะไม่ได้ราคาตรงตามที่สมาคมค้าทองคำได้ประกาศไว้ เพราะในแต่ละร้านทองอาจให้ราคาที่ไม่เท่ากัน เนื่องจากมีเหตุผลในด้านต้นทุนและระยะเวลาในการบริหารจัดการของร้านทองคำแต่ละร้านไม่เท่ากันนั้น
หลายท่านคงตัดสินใจว่าจะซื้อทองคำแต่คงคำนึงถึงเวลาที่นำไปขายทองคืนด้วย ยิ่งในช่วงที่ราคาทองมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบนี้นั้น ก็ถือเป็นโอกาสสร้างกำไรนิดหน่อยจากการขายทอง ในสำหรับใครบางคน แต่การนำทองคำไปขายที่ร้านทองนั้น อาจทำให้เราขายได้ไม่เต็มราคาเท่าไหร่นัก เพราะร้านทองเองก็จะมีเกณฑ์ของร้านในการรับซื้อด้วยเช่นกัน ทุกๆท่านอยากรู้มั้ยครับว่า ทองแบบไหนที่ร้านทองจะรับซื้อเต็มราคา และ ทองแบบไหนที่จะมีการหักลงบ้าง
ทองคำถ้าจะรับซื้อเต็มราคา จะต้องดูที่ ทองที่มีเปอร์เซ็นต์เต็ม, น้ำหนักครบ, ตัวทองต้องมีโลโก้ หรือตราสัญลักษณ์ผู้ผลิต
สำหรับทองคำที่นิยมใช้ในประเทศไทย มี 2 แบบ ได้แก่
- ทองคำ 99.9% (24K) คือ ทองแท้เกือบ 100% ค่อนข้างมีความอ่อนตัว ไม่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับทองเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เป็นทองคำแท่ง หรือทองสั่งทำพิเศษ มักซื้อขายกันเป็นกิโลกรัม ถ้าเป็นรูปพรรณชิ้นงานจะขายเป็นกรัมและค่าแรงจะค่อนข้างสูงกว่าปกติ ซึ่งร้านค้าทอง siamgoldgallery ของเรามีจำหน่าย สนใจคลิกได้เลยที่ Shopee , Lazada ด้านล่างได้เลย
- ทองคำ 96.5% คือ ทองคำมาตรฐานในไทย ที่ได้รับความนิยมมากกว่า ซึ่งทองที่เห็นตามร้านทองส่วนใหญ่จะเป็นทองแบบนี้ เนื่องจากมีความแข็งแรง นิยมผลิตเป็นทองคำแท่ง และทองรูปพรรณ เช่น สร้อยคอทอง, สร้อยข้อมือ, แหวนทอง, จี้ทอง เป็นต้น โดยราคาทอง 99.9% จะแพงกว่าราคาทอง 96.5%.
ดังนั้น ร้านทองจะตรวจสอบก่อนว่าทองที่นำมาขายนั้นเป็นทองเปอร์เซ็นต์อะไร จะได้ตีราคาให้ถูกต้อง หากเป็นทองเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่านั้น บ้างร้านอาจไม่รับซื้อ แต่มีวิธีสังเกตุง่ายๆ เช่นกัน ถ้าเป็นทองคำแท่งจะมีการปั๊มบอกเปอร์เซ็นต์ทองบนหน้าทอง ส่วนทองรูปพรรณจะสังเกตุได้ตามตะขอ และเนื้อแหวนด้านใน
สำหรับทองที่มีน้ำหนักครบ
- น้ำหนักทองถือเป็นหัวใจสำคัญทั้งตอนซื้อและขายทอง เช่น ครึ่งสลึง , 1 สลึง , 2 สลึง และ 1 บาท เป็นต้น โดยร้านทองจะชั่งน้ำหนักให้ดูทุกครั้งว่าครบเต็มจำนวนหรือไม่ โดยหน่วยน้ำหนักทองในตราชั่งมีหน่วยเป็นกรัม (ทองคำแท่ง 1 บาท หนัก 15.244 กรัม, ทองรูปพรรณ 1 บาท หนัก 15.16 กรัม ส่วนน้ำหนักอื่นๆ ก็ต่างกันเช่นกัน) ส่วนใหญ่ทองรูปพรรณมีโอกาสน้ำหนักทองหายมากกว่าทองคำแท่ง เพราะการใส่เป็นเครื่องประดับ ยิ่งใส่เป็นประจำไม่ถอดก็มีโอกาสสร้อยคอจะหลุด แหวนบุบ ตะขอหัก ทำให้น้ำหนักทองหายได้ ราคาจึงได้ตามน้ำหนักที่นำมาขายคืนนั่นเองครับ
ทองที่มีโลโก้หรือตราสัญลักษณ์ร้านค้าทอง
- ตราสัญลักษณ์ หรือโลโก้ จะสามารถใช้บอกที่มาของแหล่งผลิตทองได้ ซึ่งร้านค้าทองรายย่อยจะซื้อทองจากร้านทองรายใหญ่มาขาย เพื่อช่วยการันตี สร้างความน่าเชื่อถือได้ดีกว่า มีผลให้ขายทองได้มากกว่าทองที่ไม่มีโลโก้ โดยทองคำแท่งจะเห็นโลโก้ง่ายกว่า ถ้าเป็นทองรูปพรรณ อาจต้องใช้แว่นขยายส่องดูเพื่อตรวจสอบเพราะเนื้อทอง ส่วนใหญ่อยู่ที่ใต้ท้องแหวน ตะขอสร้อย เป็นต้น
ทองคำแท่ง
- ทองคำแท่ง เป็นสินทรัพย์ที่ซื้อเพื่อการลงทุนเพื่อทำกำไร หรือนำไปเก็บเป็นสมบัติ อีกทั้งโอกาสชำรุดและน้ำหนักทองหายมีน้อยกว่าทองรูปพรรณ ปัจจุบันทองคำแท่งถูกห่อหุ้มด้วยบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง ทำให้เก็บรักษาได้ดีกว่าทองรูปพรรณ
Shopping Online
สำหรับเกณฑ์การรับซื้อทองรูปพรรณ ตามที่ สคบ. ประกาศไว้ หากซื้อแล้วขายคืนร้านเดียวกัน ให้หักลบราคาจากราคารับซื้อทองคำแท่งไม่เกิน 5% หากขายทองคำต่างร้าน อาจหักราคามากกว่า 5%
ดังนั้น การซื้อทองที่ไหนก็ควรไปขายที่นั่นทำให้โดนหักน้อยกว่าขายคืนต่างร้าน
สรุป การขายทองคำรูปพรรณ เช่น สร้อยคอ , แหวน , จี้ , กำไลข้อมือ อาจได้ราคารับซื้อที่ต่ำกว่าราคาสมาคมประกาศ แม้คุณสมบัติที่กล่าวมาด้านบนจะครบก็ตาม เพราะทองรูปพรรณ เช่น สร้อยคอ , แหวน ขึ้นรูปยาก ต้องใช้น้ำประสานทองเยอะช่วยให้ยึดติด ซึ่งจะไม่เหมือนทองคำแท่งที่ไม่มีส่วนยึดติดกัน ไม่มีลวดลาย จึงทำให้มีเนื้อทองล้วนๆเ เต็มเปอร์เซ็นและเต็มชิ้นงานนั่งเอง ครับ
ABOUT COMPANY
CORPORATE OFFICE
บริการงานสั่งทำทองคำในรูปแบบองค์กร ติดต่อได้เลย เมล์ b2b@bctgroup.net หรือ โทร 094-560-8565 (แอดไลน์เบอร์นี้ได้เลย) ครับ ออกแบบชิ้นงานขึ้นรูปงานกราฟฟิกให้ฟรี!!