ตราสัญลักษณ์ บ้านช่างทอง ผู้ผลิตที่ผ่านมาตรฐาน สคบ.

คุณลูกค้าทุกท่านทราบหรือไม่ครับว่า บ้านช่างทอง สามารถที่จะผลิตทองแล้วยังมีการที่จะเน้นในการตรวจสอบมาตรฐานในด้านคุณภาพที่ดีมากแห่งหนึ่งของไทยและน้ำหนักที่เป็นสากล เช่น คุณภาพการเชื่อมต่อทองคำ ความยาวและสัดส่วนความงามของทองคำและนอกจากเครื่องประดับแล้วเรายังมีคุณภาพและตามมาตฐานแล้ว ยังมีน้ำหนักตรงตามราคาอีกด้วยที่ และ บ้านช่างทอง  ได้รับรองมาตราฐานจาก สคบ. ผู้ผลิตทองรูปพรรณ ประจำปี 2561-2563 มีตราสัญลักษณ์ 2 แบบ ดังต่อไปนี้

 

 

1. ตราสัญลักษณ์ บ้างช่างทอง

ตราสัญลักษณ์ บ้านช่างทอง ผู้ผลิตที่ผ่านมาตรฐาน สคบ.(2561-2563)
ตราสัญลักษณ์ บ้านช่างทอง ผู้ผลิตที่ผ่านมาตรฐาน สคบ.(2561-2563)
ตราสัญลักษณ์ บ้างช่างทอง

2.ตราสัญลักษณ์ สยามโกลด์แกลอรี่

ตราสัญลักษณ์ บ้านช่างทอง ผู้ผลิตที่ผ่านมาตรฐาน สคบ.(2561-2563)
ตราสัญลักษณ์ บ้านช่างทอง ผู้ผลิตที่ผ่านมาตรฐาน สคบ.(2561-2563)
ตราสัญลักษณ์ บ้างช่างทอง

อ่านเพิ่มเติมคลิก ไปซื้อทอง บ้านช่างทอง หนึ่งในผู้ผลิตทอง รูปพรรณ ที่ สคบ. ให้การรองรับมาตราฐาน

 

 

 

Shopping Online

 

 

 

ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ หากใครกำลังมองหาของขวัญ , ของหมั้น , ของฝาก ของขวัญสำหรับผู้หลักผู้ใหญ่ , ของขวัญสำหรับเด็กทารกแรกเกิด , หาของขวัญตามเทศกาลต่างๆ  บ้านช่างทอง ของเรามีสินค้าให้เลือกเยอะแยะมากมาย โดยสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่หน้าร้าน หรือ โทรติดต่อตามเบอร์โทรสาขาใกล้ท่านที่ให้ไว้ด้านล่างนี้ได้เลยครับ หรือสอบถามในช่องทางออนไลน์ต่างๆ 

Add Line : คลิกที่นี่  

หรือ Facebook

 

ABOUT COMPANY

Baan Chang Thong Group has the completed supply chain in gold industry. We have developed 24K Gold ornament market for leading high quality distribution and famed retailers.

We inherited professional technical skill and Thai culture heritage keeping intent from Phetburi goldsmith’s family.

จากตระกูลช่างทองเพชรบุรีที่สืบทอดเจตนารมย์กันมาถึง 3 ช่วงอายุคน จากประวัติอันยาวนานของการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายทองคำแบบโบราณและทองรูปพรรณ ประสบการณ์เหล่านั้น ก่อเกิด “บ้านช่างทอง” ดำเนินธุรกิจการตลาดร้านค้าขายส่งแบบสมัยใหม่ ย่านวังบูรพาและ “บ้านช่างทอง เยาวราช” ผู้บุกเบิกตลาดทองคำ 99.99% จนกลายเป็นผู้นำในการจำหน่าย ทองคุณภาพ และเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้จำหน่ายปลีก

บ้านช่างทอง ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับทองคำมานานกว่า 80 ปี รับงานสั่งทำที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบของคุณ ด้วยการใส่ใจทุกรายละเอียด ส่งต่อความสวยงาม และความประณีตอันทรงคุณค่าให้แก่ลูกค้า

สิ่งที่มีค่าของลูกค้า
อัญมณีที่มีความหมายของท่านลูกค้าสามารถนำมาสั่งทำที่ร้านโดยการออกแบบให้เข้ากับทองคำ เพื่อส่งเสริมให้เครื่องประดับของท่านมีค่าทั้งทางใจ และมูลค่าที่มีแต่จะสูงขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไป

แบบที่ร้านเสนอ
ทางร้านมีการทำสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง แบบแต่ละแบบล้วนมีการกลั่นกรองจากความคิด และออกแบบโดยนักออกแบบที่เชี่ยวชาญ ทางร้านสามารถปรับขนาดและรายละเอียดเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับท่านลูกค้าแต่ละท่านเมื่อสวมใส่

ซ่อมและทำความสะอาด
เครื่องประดับทองคำมักจะเป็นมรดกตกทอดจนถึงลูกหลาน หากว่าได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี ฝุ่น อากาศและการสวมใส่ ปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้พื้นผิวของทองคำหมองไม่แวววาว ขอเกี่ยว ตัวกลัด เมื่อสวมไปนานๆ อาจจะสึกหรอ การดูแลอย่างมืออาชีพ ควรทำปีละครั้ง ด้วยความรู้และประสบการณ์ ของบ้านช่างทองทางด้านการดูแลเครื่องประดับครบด้านอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งที่ทางบ้านช่างทอง แนะนำให้มารับบริการ

สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่
สาขาวังบูรพา: 02-623-7991
สาขาเยาวราช: 02-622-5303
แผนกลูกค้าองค์กร (B2B): 02-622-5303 กด 2

 

BUSINESS HOURS

For further assistance, please contact us on business hours.

Mon-Sat: 10am to 5pm
Closed on Sunday

ชมเครื่องทอง สมัยกรุงศรีอยุธยา

ชมเครื่องทอง ขึ้นชื่อว่า ทอง คงไม่มีใครไม่รู้จักและไม่มีใครไม่ต้องการ เนื่องจากทองเป็นของหายากและมีคุณค่ามาก เชื่อกันว่าแผ่นดินสุวรรณภูมิหรือดินแดนแถบเอเชียอาคเนย์ เป็นดินแดนทองและเป็นถิ่นที่มีความนิยมทองมากมาแต่โบราณกาล บอกได้เลยครับว่าถ้าใครได้อ่านบทความนี้แล้วได้ความรู้เกี่ยวกับ ทองสมัยแต่โบราณ อย่างแน่นอนครับ

พระคชาธารทองคำประดับอัญมณี  ศิลปะอยุธยา  (พ.ศ. ๑๙๖๗)
พระคชาธารทองคำประดับอัญมณี  ศิลปะอยุธยา  (พ.ศ. ๑๙๖๗)

ทองคำเป็นธาตุชนิดหนึ่ง

ทอง หรือทองคำ เป็นธาตุชนิดหนึ่ง เป็นโลหะลักษณะเป็นของแข็งมีสีเหลืองเป็นที่สังเกตเห็นได้ง่าย หลอมละลายที่ 1063′ ช. เนื้ออ่อนมาก สามารถตีบุให้เป็นแผ่นบางจนมีความหนา 0.0001 มิลลิเมตร ได้เหมือนอย่างทองคำเปลว เป็นต้น ตัดใส่กระดาษนำไปใช้สำหรับปิดบนสิ่งที่ลงรัก เช่น พระพุทธรูป ตู้ แผ่นไม้แกะสลัก และอื่นๆได้

สุวรรณมาลา
สุวรรณมาลา

สุวรรณมาลา ทองคำถัก เป็นศิราภรณ์สำหรับสตรี ศิลปะอยุธยาตอนต้น (พุทธศักราช 1967) พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ชมเครื่องทอง ทองพบในธรรมชาติทั่วไป คือ มีชนิดเป็นสายแร่จำนวนมาก และชนิดเป็นเศษทองกระจายอยู่เป็นห่างๆ ไม่มากนัก ทองมีปนอยู่ในดินทรายในหินในแม่น้ำลำธารตามกรวด แม่น้ำ (River Gravel) และที่อื่นๆ ทั่วไปมนุษย์รู้จักนำทองมาทำประโยชน์พร้อมกับแร่ธาตุชนิดอื่นๆ มานานนับพันๆ ปีจากหลักฐานการนำมาใช้ในงานศิลปะ และ ทำเป็นเครื่องประดับภาชนะเครื่องใช้สอยในประเทศอียิปต์อัสสีเรียนอีทรุสกัน ฯลฯ ครั้งโบราณในตะวันออกกลางเชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่คราว ๓,๑๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช แม้แต่ในจีนอินเดียก็มีมานานเช่นกันซึ่งแสดงให้เห็นความเจริญในเทคโนโลยีอย่างสูง และเป็นโลหะธาตุที่มนุษย์รู้จักมานานและต้องการกันมาก

ชมเครื่องทอง - 3

ทองคำ นอกจากเป็นโลหะธาตุที่หายากแล้วยังถือว่าเป็น วัตถุที่มีความสวยงามกว่าอย่างอื่นเนื่องจากคุณสมบัติเฉพาะตัวของมัน คือ เป็นธาตุแท้ชนิดหนึ่งมีจุดสำคัญดีเด่นอยู่ที่สี (Colour) คือสีเหลืองสว่างสดใสและมีความสุกปลั่ง (Brightness) คือ มีประกายมันวาวสะดุดตา นอกจากนี้ยังไม่เป็นสนิมแม้จมดินจมโคลน มีความแข็งเหนียวเนื้อแน่นมาก ไม่สกปรก ไม่หมองไม่เป็นคราบไคลง่าย เหมือนวัตถุชนิดอื่น และ สามารถนำไปใช้ทำประโยชน์ได้หลายอย่างเรียกได้ว่า เป็นเสมือนแก้วสารพัดนึกนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทองคำ จึงเป็นทรัพย์สินที่มนุษย์ต้องการมากทั่วโลก เป็นโลหะธาตุมีค่าสูงไม่เสื่อมถอย แม้แต่ยุคปัจจุบัน และสามารถตีค่าในราคาแพงกว่าวัตถอย่างอื่น หรือ แปรสภาพเปลี่ยนเป็นมูลค่าทรัพย์สินอย่างอื่นได้สะดวกทอง มีความสวยงามตามธรรมชาติ เมื่อนำมาทำเป็นภาชนะสิ่งของรูปทรงต่าง ๆ และเมื่อสลักลายให้มีเหลี่ยม มีรูปมีเงาของรอยสลักเพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งเพิ่มความสวยงามมากขึ้นอีกเครื่องทองเวลาเปื้อน ก็สามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย หรือการทำความสะอาดครั้งใหญ่ ก็ทำได้โดยวิธีต้มกับส้มมะขามเปียก จะแลดูสุกใสเป็นของใหม่ และถ้า สิ่งของนั้นมีลวดลายสวยงามด้วยก็ยิ่งดูไม่เบื่อ และ เพิ่มคุณค่ามากขึ้นอีก

ชมเครื่องทอง

มนุษย์เป็นผู้มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นอยากทดลอง และชอบคิดค้นแสวงหาอยู่เสมอไม่ว่าจะโดยบังเอิญ หรือโดยตั้งใจก็ตามเมื่อพบแร่ธาตุชนิดต่างๆ ก็นำมาทดลองเผาหรือนำมาถลุงเพื่อจะได้ตัวแร่ธาตุแท้ซึ่ง ก็จะได้นำมาทำการหลอม หรือตีแผ่ทำเป็นรูปวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ละลาย เป็นของเหลวตกแต่งศิลปวัตถุให้สวยงามอะไรต่างๆ ต่อไปคนจำพวกที่ชอบค้นคว้าแสวงหาแร่ธาตุมีค่าต่างๆ จึงมีมาเนิ่นนานเรามักเรียกกันว่าพวกนักเล่นแร่แปรธาตุปรอท เป็นพวกแสวงหาโชคลาภแสวงหาโภคทรัพย์อย่างหนึ่ง เป็นคล้ายกับนักธรณีวิทยายุคโบราณนั่นเอง ถ้าใครโชคดี พบแหล่งแร่ธาตุมีค่าโดยเฉพาะทองคำ ก็จะร่ำรวยสุขสบายไปนานดังนั้นคนสมัยก่อนจึงนิยมแสวงหากันมาก แม้จะเสี่ยงภัยมีอันตรายก็ไม่ย่นย่อ และ นับว่าเป็นความฉลาดของมนุษย์ที่ค้นคว้าทดลอง และนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิต และสังคมได้ก้าวหน้ามาเป็นอันมาก กล่าวคือนอกจากรู้จักผสมเจือทองให้มีคุณสมบัติต่าง ๆ แล้วยังรู้จักนำทองมาทำเป็นเครื่องประดับตกแต่ง ทำเป็นภาชนะเครื่องใช้สอยประเภทต่าง ๆ โดย ใช้เทคนิคหลายรูปแบบ

พระพุทธรูปทองคำ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น
พระพุทธรูปทองคำ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น

ทอง เป็นของคู่บ้านคู่เมืองของคนไทย มาแต่ครั้งอดีตกาล เพราะเป็นของมีค่าราคาสูงกว่าสิ่งอื่น หรือ อาจจะเรียกได้ว่า“ มีค่าควรเมือง” ตามคตินิยมแต่ครั้งโบราณเนื่องจากทองมีค่าสูงสุดคนสมัยก่อนเวลาสู่ขอทำพิธีหมั้น หรือ แต่งงานเขาเรียกค่าสินสอดค่าหมั้นกันด้วยทองคำเป็นหลักจะเป็นทองแท่ง หรือ ทองรูปพรรณก็ได้แต่ โดยมากเรียกกันเป็นทองรูปพรรณ (ที่เรียกเป็นทองแท่งก็ เพื่อความสะดวกฝ่ายหญิงสามารถจะเอาทองไปแปรรูป ทำอะไรก็ได้ตามชอบใจ) เช่น เรียกทอง 90 บาท อาจแยกเป็นสร้อยคอเสีย ๕ บาท สร้อยข้อมือ ๕ บาท ก็ได้ แม้แต่การโกนจุกการขึ้นบ้านใหม่เด็กเกิดใหม่ ก็มีการให้ทองคำเป็นของขวัญกัน และ ถือเป็นของขวัญที่มีเกียรติสำคัญมีหน้ามีตาที่สุดกล่าว คือ พี่ป้าน้าอาเอาทองมาให้เป็นของขวัญเป็นการทำขวัญเป็นทุนรอนแก่ลูกหลาน มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งปีใดชาวนาชาวบ้านทำนาได้ข้าวดีราคาทอ ก็จะสูงขึ้นตามด้วยเพราะแสดงว่าปีนั้นเศรษฐกิจของชาวบ้านดี จะมีการสู่ขอแต่งงานกันมากกว่า ปกติพระนามของพระเจ้าอู่ทองผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา ตามตำนานก็กล่าวว่าเมื่อแรกเกิดพระบรมวงศานุวงศ์ และ พระญาติทั้งปวงมีความชื่นชมยินดีจึงนำอู่ทอง (เปล) ขันทองอ่างทอง (โดยมากเป็นเปลทอง) มาถวาย เป็นของทำขวัญคนทั่วไปจึงได้เรียกกันว่า“ พระเจ้าอู่ทอง” มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์

การนำทองคำมาประดิษฐ์เป็นวัตถุสิ่งของเพื่อประโยชน์ใช้สอยมนุษย์ คงจะรู้จักนำทองมาทำเป็นเครื่องประดับตกแต่งร่างกาย ก่อนอาทิทำเป็นแหวนต่างหูกำไลแขนสร้อย ฯลฯ เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์ ชอบความสวยงามประกอบ กับประดิษฐกรรมเริ่มแรก ต้องทำในสิ่งของที่มีขนาดเล็กและง่ายก่อน ต่อเมื่อมีความรู้ความสามารถในการแสวงหาทองมาได้จำนวนมากและมีการพัฒนา เทคนิควิธีการทำฝีมือสูงขึ้น จึงคิดสร้างสรรค์งานสำคัญชิ้นใหญ่ ๆ อาทิทำเป็นรูปเคารพในศาสนา และ เครื่องมือเครื่องใช้ที่มีขนาดใหญ่ และ มีความประณีตละเอียดอ่อนเท่าที่พบหลักฐาน การนำทองคำมาทำ เป็นพระพุทธรูปมีมานับเป็นพันปีแล้วพระพุทธรูปปางทรงแสดงธรรมประทับยืนแบบอมราวดีหรือศิลปะอินเดีย ลุ่มแม่น้ำกฤษณาอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๐-๑๒ พบที่วั ดจอมทอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็ทำด้วยทองสีดอกบวบหรือทองเนื้อสี่คุณภาพไม่ดีบางท่านจึงกล่าวว่า เป็นทองสำริดในสมัยทวารวดีพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖ ได้พบพระพุทธรูปทองขนาดเล็กจำนวนมาก รวมทั้งที่เป็นลูกปัด และเครื่องประดับนานาชนิดที่ทำด้วยทองก็มีจำนวนมาก เป็นฝีมือช่างท้องถิ่นและอิทธิพลอินเดียโดยมากได้จาก แถบนครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี บางทีก็ได้พบการเอาแผ่นทองมาแผ่หุ้มพระพุทธรูปแต่เป็นการหุ้มด้านเดียว เฉพาะด้านหน้าในสมัยทวารวดีช่างรู้จักการนำทองมากะไหล่บนพระพุทธรูปแล้ว

แต่พบเป็นจำนวนน้อยมาจากจันฝักดาบด้ามมีดนิยมหุ้มด้วยแผ่นทองคำ หรือ แผ่นเงินเป็นของที่โปรดพระราชทานขุนนางพวกช่างทองรูปพรรณพอมีทำกันทั่วไป แต่ชาวสยามไม่รู้จักวิธีหล่อแก้ว และ ทำกระจกต้องซื้อหามาจากจีนจากบันทึกของอาลักษณ์ชาวเปอร์เซีย (อิหร่าน) เรื่องสำเภากษัตริย์สุลัยมานซึ่งติดตามคณะราชทูตเปอร์เซียเข้ามาเจริญพระราชไมตรี กับกรุงสยาม สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชระหว่างพุทธศักราช ๒๒๒๘ – ๒๒๓๑ ได้กล่าวอ้างคำบอกเล่าของพวกพ่อค้านักเดินเรือและชาวพื้นเมืองว่าลังกามีทองคำเมืองอาเต๊ะ (อยู่ทางเหนือของเกาะสุมาตราหรือปลายแหลมมลายู) มีเหมืองทองคำชาวเมืองชอบร่อนทองคำมากกว่าทำนาเมืองพม่า มีทับทิมมากมีบ่อทับทิมใหญ่ที่สุดกษัตริย์ทรงใช้ทับทิมแทนเงินเวลา ซื้อสินค้าจากชาวต่างประเทศพวกญี่ปุ่นตีแผ่นทองคำให้บางใช้ เป็นมูลค่าในการซื้อขายและประเทศรอบ ๆ ญี่ปุ่นก็มีทองชนิดนี้ใช้กันทองหนักหนึ่งมิษกอล (๒๐ มิษกอลประมาณ ๓ ออนซ์) ในญี่ปุ่น มีราคาเท่ากับหนึ่งพันดีนาร์มีชาวจีนไปอาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์ (มนิลา) บ้างส่วนมากเป็นช่างทอง และ แกะสลักฤดูมรสุมแล่นเรือจากกรุงศรีอยุธยา ไปญี่ปุ่นใช้เวลาราว ๑๕ วัน ขากลับกินเวลา ๔๐ วัน ถ้าไปมะนิลา ๒๐ วัน หากลมดีฤดูมรสุมไปเมืองจีน ๒๐ วัน แต่ขากลับใช้เวลา ๔๐ วัน และ คณะทูตจากเปอร์เซีย เดินทางมาถึงเมืองตะนาวศรีใช้เวลา ๓ เดือน ๓ วันแต่ขากลับใช้เวลา ๕ เดือนครึ่งเนื่องจากลมไม่ดีมีอุปสรรคหลายอย่าง

สถูปทอง
คำจำหลักประดับรัตนชาติ สมัยอยุธยา
คำจำหลักประดับรัตนชาติ สมัยอยุธยา

ชาวเปอร์เซียยังได้กล่าวว่า ชาวสยามจับช้างเก่งสามารถส่งช้างไปยัง อินเดียใต้บางทีชาวอินเดียก็มาค้าขายเล็กน้อยแล้วซื้อช้างกลับไปปีละ ๓๐๐ – ๔๐๐ เชือก นับเป็นรายได้งามของกษัตริย์สยามเมืองปัตตานี มีทองคำเหมือนกันแต่ไม่ได้ทำเป็นเหมืองหาร่อน จากพื้นดินชาวเมืองปัตตานีทำดอกไม้ ทองคำส่งมาเป็นบรรณาการแก่พระเจ้ากรุงสยามเรื่องประเทศสยามมีทองคำมั่งคั่งเป็นที่ร่ำลือในหมู่พวกพ่อค้านักเดินเรือชาติต่างๆ ในสมัยโบราณแต่ในข้อเท็จจริงก็ยังไม่กระจ่างนักกล่าวคือแหล่งที่มีแร่ทองคำมากจริงๆ มีน้อยที่เรารู้จักกันดีก็มีเพียงที่เมืองบางสะพานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมืองกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ตำบลโต๊ะโต๊ะจังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้ก็มีประปรายที่โน่นบ้างที่นี้บ้างอย่างเช่น ที่เขานางร่อนจังหวัดชุมพรและที่อื่นๆ ซึ่งชาวบ้านชาวเมืองไปเที่ยวร่อนหามาแต่โบราณ เช่น แถบลำน้ำโขงอำเภอสงคราม จังหวัดหนองคาย อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลยบางทีก็มีกล่าวถึงไว้ในตำนาน และ ประวัติศาสตร์ ด้วยความจริงทองคำปรากฏอยู่ในทุกประเทศเช่นพม่ามาเลเซีย (รัฐกลันตันต่อกับไทย) อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เขมร ลาว (ปัจจุบันยังมีร่อนกันอยู่แถบปากแม่น้ำอเมืองหลวงพระบาง) เวียดนามมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไปและน่าเชื่อว่า ทองจากประเทศอาหรับ ก็คงจะมีเข้ามาจำหน่ายไม่น้อย เหรียญทองอาหรับพบได้มากในเมืองไทยแม้แต่ในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ

เครื่องทองคำ กำไลข้อมือ , ผอบทองคำ สมัยอยุธยา
เครื่องทองคำ กำไลข้อมือ , ผอบทองคำ สมัยอยุธยา

จากการสำรวจของนักธรณีวิทยาในปัจจุบันพอจะสรุปตามข้อมูลของสภาการเหมืองแร่ได้ว่าขณะนี้ได้มีบริษัทต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจเหมืองแร่ทองคำขนาดใหญ่หลายรายสนใจจะมาลงทุนสำรวจ และผลิตแร่ทองคำในประเทศไทยเช่นบริษัทยูท่าห์ไมนิ่ง จำกัด บริษัทยูท่าห์อินเตอร์เนชั่นแนล. จากสหรัฐอเมริกาซึ่งจะมาทำทั้งเหมืองแร่ทองคำ และลิกในต์ขณะที่บริษัทแปซิฟิคแอ็กจากออสเตรเลีย ซึ่งมีการลงทุนทำเหมืองทองทั้งในฟิลิปปินส์ และ ปาปัวนิวกินี ก็กำลังขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในประเทศไทยเพื่อที่จะได้มีสิทธิขออาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำด้วยความสนใจของชาวต่างประเทศดังกล่าวเป็น เพราะต่างเชื่อว่าประเทศไทยมีพื้นที่ที่มีศักยภาพ “สูงพอสมควรโดยเฉพาะจากการสำรวจขั้นต้นของกรมทรัพยากรธรณีพบว่าบริเวณที่น่าสนใจแหล่งใหม่ คือแถบแม่น้ำเลยจังหวัดเลยแม่น้ำโขงจังหวัดหนองคายนอกจากนั้นมีที่บริเวณ อำเภอเถิน อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ส่วนที่ได้สำรวจแล้ว และ เตรียมให้เอกชนเข้าดำเนินการภายหลังประกาศกฎกระทรวงเรียบร้อยแล้วคือบริเวณ อำเภอวัฒนานคร และอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ส่วนเหมืองทองขนาดใหญ่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ของ นายเปลวฤาโรจน์วงศ์ ก็ได้เข้าร่วมทุนกับแคนาดาแล้วและตั้งเป็นบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท ไทยแอมแคนไมนิ่งโดยจะมีการเพิ่มทุน และขยายพื้นที่ดำเนินการออกไปอีกเพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจาก คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ผู้ขอสำรวจ และทำเหมืองทองคำในพื้นที่ที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดจะต้องมีทุนไม่ต่ำกว่า ๔๐ ล้านบาท และเสนอว่าบริเวณจังหวัดเลย และจังหวัดหนองคายที่ยังสำรวจไม่เสร็จก็ยังไม่มีการออกอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่แก่ผู้ใด

พระแสงขรรค์ กรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ
พระแสงขรรค์ กรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ


ที่มา กรมศิลปากร

 

Follow Us

 

9 วิธี ความสะอาด ทอง ยังไงให้กลับมาดูสวย ดูใหม่ ตลอดเวลา

ทำความสะอาดทอง ยังไงให้กลับมาดูสวย ดูใหม่ ตลอดเวลา

ทำความสะอาดทอง 8 วิธี สวัสดีคับ หลายๆ คนมีเครื่องประดับทอง เก็บไว้มากมาย หรือสวมใส่อยู่ทุกวัน อาจทำให้เครื่องประดับทอง ดูเก่า ดูไม่ใหม่เหมือน วันที่ซื้อมาในช่วงแรกๆ วันนี้แอดมินจะมาบอก 8 วิธี การทำความสะอาดทอง ยังไงให้ดูใหม่ตอดเวลา ถ้าไม่ได้ทำตามที่แอดมินบอก จะได้ทองสีสวยเรืองรอง กลับคืนมาอย่างแน่นอนครับ พร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ

1. ทำความสะอาด ทอง ด้วยน้ำต้มเดือด

ทำความสะอาดทอง - 1
น้ำต้มเดือด

ทำความสะอาดทอง วิธีแรก หากเครื่องประดับทองของคุณ ดันไปเปื้อน บางครั้งบนตัวสร้อยทอง ของคุณ ก็มีคราบไขมันติดอยู่ อาจมาจากเหงื่อของผู้สวมใส่ทำให้ ทองดูหม่นหมอง ไม่เงา ขี้ผึ้งหรือน้ำมันอะไรสักอย่าง ติดอยู่ ให้คุณทำความสะอาด โดยนำเครื่องประดับไปจุ่มใน น้ำต้มเดือดเพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกไป เมื่อหลุดออกไปแล้วค่อยใช้น้ำผสมสบู่หรือน้ำผสมแอมโมเนียทำความสะอาดอีกรอบ เท่านี้ก็กลับมาสวยเหมือนเดิมแล้วครับ

2. ใช้ยาสีฟัน / แปรงสีฟัน

ทำความสะอาดทอง - 2
แปรงสีฟัน + ยาสีฟัน

ยาสีฟันเองก็สามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกที่เกาะบนตัวทองได้ดีเลยนะครับ ช่วยให้เงางามมากยิ่งขึ้น โดยวิธีทำความสะอาด ให้บีบยาสีฟันปริมาณพอเหมาะให้พอดีกับแปรงสีฟัน แล้วนำไปขัดลงบนตัวทอง ขัดเบา ๆ จากนั้นแล้วให้ล้างน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ทองก็จะกลับมาสะอาดเปล่งประกายเหมือนเดิมแล้วครับ

ถ้าคุณอยากจะขัดเครื่องประดับทองด้วยแปรงสีฟัน แนะนำให้เลือกแปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่มมาใช้จะดีกว่านะครับ ว่าแปรงนี้ขนอ่อนนุ่มหรือไม่ ถ้าคุณมีแปรงสำหรับแปรงคิ้วที่ไม่ได้ใช้ ก็สามารถนำมาขัดเครื่องประดับทองได้เหมือนกัน โดยเวลาขัดก็ให้ขัดอย่างเบามือเป็นลักษณะวงกลม ขัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าทองจะกลับมาสะอาดสดใสอีกครั้ง

3. ใช้น้ำมะนาว

ทำความสะอาดทอง - 3
น้ำมะนาว

  วิธีที่สาม ให้บีบน้ำมะนาวใส่ถ้วยเอาไว้พอให้ท่วมเครื่องประดับทองของ ที่เตรียมไว้ จากนั้นให้นำเอาเครื่องทองแช่ลงไปในถ้วยน้ำมะนาวประมาณ 1 คืน ครับ เช้าวันรุ่งขึ้นจึงนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้งพร้อมทั้งใช้แป้งเด็กโรยลงบนเครื่องทอง รับรองว่าจะต้องสวยสะอาดขึ้นเงามาก ทองจะกลับมาสวย เงาวิวั้บอย่างแน่นอนครับ

4. ใช้น้ำมะขามเปียก ทำความสะอาด ทอง

น้ำมะขาม

 วิธีที่สี่ คือ ใช้น้ำมะขามเปียก ทำความสะอาดทอง แบบนี้ก็ทำได้ ไม่ยุ่งยากเลย นำมะขามเปียกมาผสมน้ำอุ่น คั้นจนได้น้ำมะขามเปียกออกมา ให้เหลือแค่น้ำมะขามเปียกเท่านั้น จากนั้นจึงนำเอา เครื่องประดับทอง มาแช่ลงไปในน้ำมะขามเปียกประมาณ 5 นาที ครับ จากนั้นใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดอีกรอบนึง แล้วใช้ผ้าขนหนูมาขัดอีกรอบ เพียงเท่านี้ก็จะได้เครื่องประดับทองคำก็จะกลับมาสวย ดูใหม่ อีกครั้งครับ   

5. ใช้เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดา

  วิธีที่ห้า  นำผงเบกกิ้งโซดาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากันกับน้ำอุ่นประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันจนเหนียวข้นดี หากยังไม่ข้นพอสามารถเติมน้ำอุ่นลงไปได้อีก จากนั้นจึงนำมาถูลงบนเครื่องประดับ ทอง ที่เตรียมำไว้ และ ให้นำเอาแปรงสีฟันขนนุ่มมาช่วยขัดทองต่อ ปล่อยทิ้งไว้แล้วรออีกประมาณ 2 นาที หลังจากนั้นให้นำน้ำสะอาด มาล้างเบกกิ้งโซดาออกไปให้หมด จนสะอาด เพียงเท่านี้เครื่องทองของคุณก็จะกลับมาสวยเหมือนใหม่แล้วครับ

6. ใช้น้ำยาล้างจาน

น้ำยาล้างจาน

หลายๆคนคงคิดว่าเครื่องประดับทองที่เราสวมใส่ต้องเจอทั้งเหงื่อ ทั้งคราบครีมและคราบไคล ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นไขมันอันสร้างความหมองคล้ำแก่เครื่องประดับทอง วิธีที่จะกำจัดคราบมันออกไปได้ดีที่สุด คือวิธีใช้น้ำยาล้างจานนี่แหละครับ เหมาะสมสุด ๆ ด้วยการผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำเปล่า นำเอาฟองน้ำอย่างนุ่มมาช่วยในการขัดทองเพื่อไม่ให้เครื่องประดับเป็นรอย แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนนั้นเช็ดให้แห้ง แค่นี้ก็ได้ทองสีทองอร่ามก็กลับคืนมาแล้วครับ

7. น้ำยาล้างทองโดยเฉพาะ 

น้ำยาล้างทอง

หลายๆคน อาจจะไม่ทราบว่า ในปัจจุบันมีน้ำยาเป็นขวด และ ผ้าสำหรับเช็คทอง แต่ต้องเลือกซื้ออย่างละเอียดนะครับ เพราะบางยี่ห้ออาจไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เเครื่องประดับทองของคุณเป็นรอยตำหนิได้ครับ

8. ใช้แอมโมเนีย

แอมโมเนีย

    วิธีสุดท้ายนี้ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชื่อของแอมโมเนียสำหรับใช้สูดดมขณะเป็นลม คงยังไม่รู้ว่ามันเอามาใช้ทำความสะอาดทองได้ นำแอมโมเนีย 1 ส่วน ผสมกับน้ำ 6 ส่วน จากนั้นแช่เครื่องประดับในน้ำที่ผสมไว้สัก 1 นาที ครับ แล้วค่อยนำขึ้นมารอเป่าให้แห้ง ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้บ่อยนะครับ เพราะมันจะทำให้ทองหมองคล้ำได้ครับ

 เครื่องประดับที่ทำจากทอง ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ หรือ แหวน  เมื่อใช้ไปนานๆแล้วอาจจะหมองไม่เงางาม เหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆเพราะโดนเหงื่อของเราซึ่งมีกรด เครื่องประดับเหล่านี้จะแพ้ความเค็มในเหงื่อของเรา จึงควรทำความสะอาดบ่อยๆ ให้เครื่องประดับกลับมาเงางามอีกครั้ง

ทำความสะอาดทอง บ้านช่างทอง siam gold gallery
Before-After

วิธีทำความสะอาดทองไม่ให้สึกหรอ
1. ใช้น้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจาน นำทองไปแช่ ขัดด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มๆ และล้างด้วยน้ำสะอาด

2. ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มชุบยาสีฟัน แปรงทั่วๆ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เสร็จแล้วใช้ผ้านิ่มๆ ขัดเงาอีกครั้ง

3. แช่น้ำมะนาวไว้ประมาณ 1 วัน อาจจะเป็นช่วงกลางคืนตอนเราหลับก็ได้ หลังจากนั้น ถูเบาๆ ให้คราบสกปรกออกไป เช็ดให้แห้ง และหากมีแป้งเด็ก ก็สามารถนำมาทาบางๆ แล้วใช้ผ้าขัดอีก เพื่อความเงางาม

4. ใช้น้ำมะขามเปียก ขัด และล้างน้ำออกให้สะอาด เช็ดให้แห้ง

5. เครื่องประดับที่มีลวดลายละเอียด ควรแช่ในน้ำเดือด ผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตหนึ่งหยิบมือ แช่ทีละชิ้น ประมาณ 30 วินาที จากนั้นซับให้แห้งด้วยผ้านิ่ม แต่ในกรณีที่เครื่องประดับมีพลอยตกแต่งอยู่ ไม่ควรใช้วิธีนี้ เพราะอาจทำให้พลอยร้าวได้

ข้อควรระวัง
1. ให้ถอดเครื่องประดับทองก่อนว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ เนื่องจากคลอรีนในน้ำ อาจทำลายผิวของทอง หรือทำให้หนามเตยที่ไว้เกี่ยวคลายออกได้

2. หากจะแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ออนเซน หรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูง ควรถอดเครื่องประดับออก

3. โลชั่นหรือสเปรย์ต่าง ๆ ก็มีส่วนทำให้ความแวววาวของทองคำลดลงเช่นกัน เพราะทำให้เกิดชั้นไขมันเคลือบผิวทองไว้ ดังนั้นเวลาใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ ระวังอย่าให้โดนเครื่องประดับที่ทำจากทอง

ข้อเสนอแนะ
        การเก็บรักษาทอง ไม่ควรเก็บรวมกัน เพราะว่าทองอาจจะขูดขีดกันเป็นรอยได้ ควรแยกเก็บ โดยอาจจะใช้กระดาษทิชชู หรือสำลีม้วนเก็บไว้ก็ได้

Follow Us

 

เกล็ดความรู้ ทอง

ทำไม ราคา ทองไทย และ ทองโลก ไม่เท่ากัน

ราคาหน้าร้านทอง กับ ราคาทองในตลาดโลก เป็นราคาเดียวกันหรือเปล่า? ถ้ามองแบบผิวเผินมันก็ควรจะเป็นราคาเดียวกัน เพราะทองก็เป็นแร่ธาตุเหมือนกัน อยู่ที่ไหนก็ควรจะราคาเดียวกัน แต่จริงๆแล้ว ราคาหน้าร้านทองกับราคาในตลาดโลก ไม่เท่ากัน! โดยราคาทองของไทยจะ “แพงกว่า” อยู่นิดหน่อย

ความแตกต่างราคาทองไทยกับราคาทองตลาดโลก

กลับมาเข้าเรื่องของราคาทอง ผมขอแบ่งเป็นสองกลุ่มเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น กลุ่มแรกคือ ราคาทองหน้าร้าน ซึ่งสำหรับคนที่ซื้อทองแบบที่เป็นรูปเป็นร่างจับต้องได้ น่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ผมขอเรียกว่าเป็น “ราคาทองไทย” ละกัน ส่วนอีกกลุ่มคือ ราคาทองในกราฟต่างประเทศ คนที่ลงทุนในกองทุนทองหรือเทรดตลาดฟิวเจอร์ จะคุ้นเคยกับราคานี้ ซึ่งในที่นี้ผมขอเรียก “ราคาทองโลก”

ทั้งสองราคาเป็นราคาทองเหมือนกัน แต่มีที่มาแตกต่างกัน จึงทำให้ราคาแตกต่างกันไปด้วย มาดูกันว่าแต่ละราคาคิดมาจากอะไร

ราคาทองโลก

ราคาทองที่อ้างอิงเป็นสากลตามข่าวเศรษฐกิจตามข่าวการลงทุนต่างๆ จะมาจากราคาทองในตลาด Gold Spot ซึ่งมีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์-ศุกร์ ราคาที่เห็นในกราฟจะมีหน่วยเป็น ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และมาตรฐานของทองที่ซื้อขายกันในตลาดนี้ต้องมีความบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่า 99.5%2

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา Gold Spot มีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ปัจจัยที่เห็นได้ชัดๆก็คือ ทองมักจะถูกใช้เป็นที่หลบภัยทางการเงิน ในช่วงที่เกิดวิกฤติหรือมีเกณฑ์ที่จะเกิดความไม่สงบต่างๆ ราคาทองมักจะขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่เห็นว่าเงินหรือสินทรัพย์ที่ถืออยู่อาจจะผันผวน เลยเปลี่ยนไปเก็บไว้ในรูปของทองแทน

อย่างไรก็ตามราคานี้เป็นราคาที่ซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายในการจัดการส่งมอบใดๆทั้งสิ้น

ราคาทองไทย

ส่วนราคาทองของไทยที่โชว์อยู่ที่หน้าร้านขายทอง หลักๆแล้วจะเป็นการรวม “3 ปัจจัย” เข้าด้วยกัน คือ ราคา Gold Spot, อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน และ ค่า Premium (ค่าดำเนินการในการนำเข้าและส่งออก) โดยราคาจะแสดงเป็นหน่วย บาท/ทองคำ 1 บาท อ้างอิงตามราคาจากสมาคมค้าทองคำ ซึ่งเป็นราคาที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป

เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ทองที่นิยมซื้อขายในไทยจะอยู่ที่ความบริสุทธิ์ 96.5% ราคาทองคำจากสมาคมค้าทองคำจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ทองคำแท่ง และทองรูปพรรณ ปกติทองรูปพรรณจะขายแพงกว่า เพราะมีการบวกเพิ่มค่ากำเหน็จ (ค่าใช้จ่ายในการขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับ) และเวลารับซื้อร้านจะรับซื้อทองรูปพรรณที่ราคาต่ำกว่าเพราะซื้อขายต่อลำบาก ถ้าเกิดเราไปซื้อทองที่ร้านแล้วพบว่าไม่ได้ราคาตามราคาของสมาคมค้าทองก็ไม่ต้องตกใจ เพราะปกติร้านไม่ได้ผลิตทองคำแท่งเอง จึงต้องบวกกำไรจากค่าดำเนินการด้วย

ขอบคุณที่มา. คลิก 

Shopping Online